"ในหลวง นักพัฒนา คู่ฟ้า ICT"




ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนับได้ว่ามีการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกิดขึ้นมาก มีการออกพระราชบัญญัติจัดตั้งหน่วยงานเพื่อรับผิดชอบ ได้แก่ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ สำนักงานคณะกรรมวิจัยแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม สำนักงานพลังปรมาณูเพื่อสันติ และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เป็นต้น ด้านการพัฒนาบุคคลากรมีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยทั้งของรัฐและเอกชนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีการให้ทุนการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียังต่างประเทศด้วย นอกจากนี้ยังได้มีการรวมตัวกันจัดตั้งสมาคมวิชาชีพด้านวิทยาศาตร์และเทคโนโลยีขึ้นหลายสาขา เช่น สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ เป็นต้น การพัฒนาเหล่านี้ทำให้ประเทศไทยก้าวทันความก้าวหน้าทางวิทยาศาตร์และเทคโนโลยีและสามารถนำมาพัฒนาประเทศได้ในหลายด้าน เช่น การสำรวจทรัพยากรธรรมชาติด้วยดาวเทียม การใช้พลังงานปรมาณูเพื่อการถนอมอาหาร การศึกษาและการเตรียมความพร้อมสำหรับการพลังงานปรมาณูเป็นแหล่งของพลังงานไฟฟ้าในอนาคต เป็นต้น


การพัฒนาเหล่านี้ทำให้ประเทศไทยก้าวทันความก้าวหน้าทางวิทยาศาตร์และเทคโนโลยีและสามารถนำมาพัฒนาประเทศได้ในหลายด้าน เช่น การสำรวจทรัพยากรธรรมชาติด้วยดาวเทียม การใช้พลังงานปรมาณูเพื่อการถนอมอาหาร การศึกษาและการเตรียมความพร้อมสำหรับการพลังงานปรมาณูเป็นแหล่งของพลังงานไฟฟ้าในอนาคต เป็นต้น


ในปัจจุบันในเรื่องของเทคโนโลยีหรือ ICT นี้ได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราก็ได้เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่จะทำให้เทคโนโลยีหรือ ICT นั้นพัฒนาขึ้นมาได้ ซึ่งคนไทยปัจจุบันได้นำความรู้ความสามารถทางเทคโนโลยีมาประดิษฐ์คิดค้นจากแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้เป็นสิ่งใหม่ขึ้นมากมาย อาทิ คอมพิวเตอร์ ดาวเทียม วิทยุ เป็นต้น อันจะส่งผลให้สังคมไทยได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้เป็นอย่างดี และในขณะเดียวกันประเทศไทยยังนเทคโนโลยีจากต่างประเทศเข้ามาด้วยโดยเฉพาะด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีความจำเป็นต่อพสกนิกรของพระองค์ไม่มากก็น้อย อาทิ ใช้ในการค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ การติดต่อสื่อสาร เป็นต้น

1 ความคิดเห็น:

maximum กล่าวว่า...

ขอบจายมากที่เข้ามาดู 0^_^0

แสดงความคิดเห็น